มาทำความรู้จักกับเว็บไซต์ Amazon กันเถอะ!!

มาทำความรู้จักกับเว็บไซต์ Amazon กันเถอะ!!

01/06/2022


ถ้าพูดถึง Amazon แน่นอนว่าหลายคนคงนึกถึงร้านกาแฟที่อยู่ในปั๊มน้ำมันใช่ไหม เพราะมีชื่อเรียกและตัวอักษรเขียนเหมือนกัน ฉะนั้น ไม่แปลกที่เราจะคิดว่ามันคือร้านกาแฟ แต่สำหรับอเมซอน (Amazon) ที่มิสโอเตะจะพูดถึงในวันนี้มัน คือ เว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก 



Amazon คืออะไร?

Amazon คือ เว็บไซต์ (E-Marketplace) ซื้อ-ขายสินค้าบนออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ติดอันดับต้น ๆ และมีมูลค่าการตลาดกว่าหลักแสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยสามารถซื้อขายสินค้าได้ทั่วโลกตลอด 24 ชม. ซึ่งถ้าจะเปรียบให้เห็นภาพชัดขึ้นก็คล้ายกับเว็บไซต์ Shopee และ Lazada ในบ้านเรานั่นเอง


จุดเริ่มต้นของ Amazon

Amazon ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1994 โดยคุณ Jeff Bezos อดีตพนักงานบริษัทอยู่ใน Wall Street ซึ่งเขาได้มองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจจากอินเตอร์เน็ต จึงได้ลาออกจากบริษัท และเริ่มมาเปิดบริษัทขายหนังสือออนไลน์ ที่เครมว่าเป็นร้านขายหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีหนังสือให้เลือกมากกว่าล้านเล่ม โดยลูกค้าจะเข้ามาสั่งซื้อหนังสือผ่านเว็บไซต์ แล้ว Amazon ก็จะทำการจัดส่งหนังสือไปให้กับลูกค้าถึงหน้าบ้าน ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้คนเป็นจำนวนมาก จนทำให้ Amazon เติบโตขึ้นและก้าวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี 




และหลังจากนั้นบริษัทก็ได้มีการพัฒนาระบบเว็บไซต์ และขยับขยายธุรกิจด้วยการขายสินค้าอื่น ๆ เพิ่มขึ้น เริ่มขายเพลง ขายเกมคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่เป็นสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งตรงกับ Concept ในการออกแบบโลโก้ของ Amazon ที่มีเครื่องหมายลูกศรชี้จากตัวอักษร A ไปยังตัวอักษร Z ที่สะท้อนให้เห็นว่า Amazon มีหมวดสินค้าให้เลือกมากมาย ทีทุกคนสามารถหาซื้อได้ตั้งแต่ A ไปถึง Z 


จนกระทั่ง Amazon ได้พัฒนาระบบมาเป็นเว็บไซต์ E-Commerce อย่างเต็มตัว และได้ขยายเว็บไซต์ไปยังประเทศอื่น ๆ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน อิตาลี่ จีน และญี่ปุ่น โดยในแต่ละประเทศจะมีฐานลูกค้าเป็นของตนเองซึ่ง Amazon วางไว้ว่าทุกสาขาจะต้องมีระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพแบบเดียวกับอเมริกานั่นเอง


จุดเด่นของ Amazon

- มีสินค้าหลากหลายมากกว่า 30 หมวดหมู่ เคล็ดลับความสำเร็จของเขา คือ “ไม่มีอะไรที่หาไม่ได้ใน Amazon”
- “ราคาสินค้าที่ถูกกว่าคู่แข่ง” เพราะ Amazon สามารถบริหารต้นทุนได้อย่างดี ทำให้ลูกค้าเข้ามาใช้งานและยังเพิ่มโอกาสในการซื้อสินค้าอื่น ๆ เพิ่มขึ้น
- เป็นเจ้าแรก ที่มีการเปิดให้รีวิวสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคคนอื่น ๆ ตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น
- มีฟีเจอร์ที่อำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้า คือ “One-click” ลูกค้าสามารถสั่งซื้อได้ด้วยเพียงแค่คลิกเดียว โดยข้ามขั้นตอนการกดสินค้าลงตะกร้า และไม่ต้องกรอกข้อมูลการชำระเงิน หรือจัดส่งให้ยุ่งยาก แก้ปัญหาสำหรับลูกค้ากดสินค้าใส่ตะกร้าไว้ แต่สุดท้ายไม่กลับมาซื้อ
- สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เน้นให้ความสำคัญกับลูกค้า ไม่ใช่คู่แข่ง
- ระยะเวลาในการดำเนินการขนส่ง Amazon ให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าที่สั่งซื้อโดยเร็วที่สุด ทำให้มีการขยายเครือข่ายศูนย์การให้บริการ เพื่อกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว

จุดเด่นในการทำธุรกิจของ Amazon ทำให้เห็นได้เลยว่า การทำงานที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก โดยการสร้าง Customer Experience ที่ดี สามารถทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำได้และยังเกิดการบอกต่อกับผู้อื่นอีกด้วย ซึ่งจุดเด่นเหล่านั้นทำให้ Amazon ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจแบบยั่งยืน

ยังไม่จบเพียงเท่านี้ค่ะ เมื่อเพื่อน ๆ ได้รู้จักกับประวัติความเป็นมาของเว็บไซต์ Amazon แล้ว อีกหนึ่งสาขาที่มิสโอเตะอยากพาไปรู้จักก็คือ Amazon Japan ค่ะ เนื่องจากตอนนี้บริษัท ote.co ของเราได้เพิ่มบริการนำเข้าสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นด้วย มิสโอเตะเลยอยากมาให้เกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับเว็บไซต์ Amazon Japan 



มาทำความรู้จักกับ Amazon Japan 

Amazon Japan คือหนึ่งในเว็บไซต์ Shopping ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อไม่แพ้เว็บไซต์หลัก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าจากนอกประเทศหรือสินค้าในประเทศญี่ปุ่นเอง ซึ่งได้เปิดเว็บไซต์ขึ้นมาเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ปีค.ศ.2000 โดยใช้ชื่อว่า amazon.co.jp และมีคุณ Junichi Hasegawa เป็น CEO ด้วยความหลากหลายของสินค้าและบริการเสริมอย่าง Amazon Prime (บริการส่งสินค้าด่วนและรับชมรายการต่างๆรายเดือน) จึงทำให้ amazon.co.jp ได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก และติดอันดับเว็บช้อปปิ้งที่มียอดขายสูงสุดอันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น


ข้อดีของ Amazon Japan

- สามารถหาซื้อสินค้าได้ก่อนใคร เพราะสินค้าบางอย่างมีจำหน่ายเฉพาะใน Amazon JP เท่านั้น เช่น ฟิกเกอร์อนิเมะพรีออเดอร์, นาฬิกาบางรุ่น, กล้องฟิล์มบางรุ่น หรือนิตยสารไอดอลภาษาญี่ปุ่นฉบับล่าสุด

- ใช้งานง่าย เนื่องจากมีรูปแบบเว็บไซต์เหมือนสากล ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นก็สั่งซื้อสินค้าได้ เพราะสามารถเปลี่ยนจากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาอังกฤษได้

- ไม่ต้องกังวลเรื่องภาษีนำเข้า เนื่องจาก Amazon Japan ได้มีการรวมภาษีนำเข้าไว้ให้ก่อนขั้นตอนยืนยันการสั่งซื้อแล้ว ฉะนั้น เราสามารถเช็คราคาก่อนตัดสินใจซื้อได้

- การขนส่งสินค้ามาไทย ค่อนข้างเร็วโดยประมาน 7 วัน 


สุดท้ายแล้ว…ถึงแม้ว่าในปัจจุบันยังไม่มีการเปิดเว็บไซต์ Amazon ในประเทศไทย แต่ก็ยังมีแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่ทดแทนได้อย่าง Amazon Global Selling ที่เปิดโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้าคนไทยสามารถนำเข้ามาขายหรือส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศได้ 


สำหรับบทความนี้ มิสโอเตะหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทุกคนไม่มากก็น้อยนะคะ

อัพเดทข่าว/นำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่น